** ตนแล เป็นที่พึ่งของตน คนอื่น ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ ก็บุคคลมีตนฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้ยาก*^*
วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553
กินแครอทดีอย่างไร
แครอทเป็นพืชกินหัวที่มีปลูกมากในประเทศไทย
และเป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว แครอท เกิดในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง ออกดอกราวเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ดอกแตกเป็นชั้นคล้ายร่ม ชั้นนอกสีชมพู ตรงกลางสีม่วงแดง แครอทสมัยโบราณมีเนื้อแข็ง เสี้ยนเยอะเหมือนไม้ สีของหัวแครอทมีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีม่วง แต่แครอทสีส้มที่รับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นแครอทที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เมื่อศตวรรษที่ 18 นี้เอง
แครอท ได้ชื่อว่าอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินชนิดอื่นหลากหลายชนิดและใยอาหาร สารอาหารในแครอทจะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง บำรุงสายตา ผิวพรรณ และระบบประสาท ช่วยปรับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น มีแคลเซียมเพคเตท ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอล ลดการเกิดโรคหัวใจ และภาวะหัวใจล้มเหลว ช่วยบำรุงเซลล์ผิวหนังและเส้นผมให้มีสุขภาพดี มีวิตามินเอสูง ช่วยลดการเสื่อมของตา เช่น ต้อกระจกมีสารต่างๆ ที่เป็นทั้งเกลือแร่ และวิตามินอีกมากมาย เช่นธาตุแคลเซียม มีฟอสฟอรัส เหล็ก มีวิตามินเอ บี 1 บี 2 และวิตามินซี ถ้าจะรับประทานแครอทให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด ควรปรุงให้สุกก่อนจะนำมารับประทานครับ เพราะแครอทมีผนังเซลล์ที่แข็ง ถ้าหากรับประทานดิบๆ จะได้รับประโยชน์ไม่มากเท่าที่ควร เพราะร่างกายได้รับสารเบต้าแคโรทีนไม่ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ การทำให้สุกก่อนรับประทานทำให้ผนังเซลล์ที่แข็งสลายตัวลง ทำให้ร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนได้อย่างเต็มที่ และถ้าจะให้ได้คุณค่าอย่างครบถ้วน ควรกินแครอทร่วมกับอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารเบต้าแคโรทีนได้มากกว่าครึ่ง เพราะเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น